ที่สุด...หนังไทย..ปรากฏการณ์บันเทิง 2556

"หนัง…เข้าสู่ยุคหนังไทยใหม่"

"พี่มาก พระโขนง" ปรากฏการณ์หนังไทย พศ.ใหม่
การกวาดรายได้ทั่วประเทศไปกว่า 1,000 ล้านบาท...​และยังไม่นับรวมความสำเร็จในเวทีต่างประเทศ
ก็ต้องยอมรับว่า "พี่มาก พระโขนง" เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จ "ตลอดกาล" ของไทยเทศไทยแล้ว
ในธุรกิจโรงหนัง เราได้เห็นปรากฏการณ์คนยืนรอดูเต็มโรง จนต้องเสริมเก้าอี้ริมทางเดิน.... คนจองตั๋วรอดูล้วงหน้าเป็นวันๆ 
และเราเห็นภามคนเฒ่าคนแก่ ที่ร้างโรงหนังมานาน กลับมาดูหนังอีกครั้งโดยการมาดูพร้อมคนเป็นลูกเป็นหลาน

ต้องชมว่าที่ออกมาดี "มาจากจุดเริ่มต้นที่ดี" ที่อาจหาญ กล้าคิดใหม่ ทำใหม่กับตำนานแม่นาค  เริ่มตั้งแต่การปรับมุมมองการนำเสนอในมุมของพี่มาก ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน  นำเสนอในรูปแบบร่วมสมัย ที่ Set Up ของเรื่องเก่าแบบประณีต แต่บรรยากาศเป็นแบบ Modern Fashion อีปิค มาเลยยยยย ( การนำเสนออีปิค ก็ไม่เคยเห็นในหนังไทยมากนัก เช่น ฉากสนามรบที่ยิ่งใหญ่ / งานวัดสุดบรระเจิดเป็นต้น)
และที่กล้ามากคือ เอาหนังผี+โรแมนติด+คอมเมดี้ มาไว้รวมกันได้ "กลมกล่อมมาก" และทำถึงทุกอย่าง ขำก็ฮากระทบเท้า, ซึ้งก็ สะอื้นกันทั้งโรง, และผีก็น่ากลัว ตกใจได้เป็นช่วงๆ และเป็นหนังที่ไม่มีพิษมีภัย ดูได้ทุกเพศทุกวันจริงๆ ( เพราะประเด็นเรื่องมันคือ "ความรัก" น่ะ) มุขตลกก็ไม่หยาบคาย นี่ยังไม่นับความ"กล้า" มากๆๆๆๆ ที่เอาดาราหน้าฝรั่ง อย่างมาริโอ้ และ ใหม่ ดาวิกา มารับบทนำ แถมแก๊งค์เพื่อนพี่มาก สุดไร้สาระอีก.... แต่ถือเป็นความ "กล้า" ที่ "เกิด" 

แต่ไม่ใช่เพราะตัวหนังอย่างเดียวที่ทำงาน "Marketing" จัดเต็มด้วยจึงส่งให้เรื่องนี้ไปไกล... เริ่มตั้งแต่การโปรโมท ทั้งทีวีซี  ทั้งคลิปที่ขยันปล่อยออกมาหลายเวอร์ชั่น...​ความยาวหนังที่เอื้อต่อการทำรอบฉาย... ช่วงเวลาฉาย "สงกรานต์"​ที่เป็นช่วงทำเงินที่สุดของหนังไทย...​การอักโปรโมทชั่นทุกช่องทาง ที่เอื้อให้คนไปดู  ทั้งกับสิ่งที่ตัวเองมี และ Partner ทั้งหมด เช่น ซื้อดีวีดีลำซิ่ง รับส่วนลดพี่มาก, ในเครือSF ตัวลดราคา (หลังจากหนังทำรายได้500 ล้าน และตั้งเป้าหมายจะไปถึง 1,000 ล้านบาท), การจัด Event ให้ข่าวกระเพื่อม เช่น การจัดฉลองรายได้ 100 ล้านใน 3 แรก (จาก3วันอันตราย กลายเป็น 3 วันพลิกชะตาไปเลย), ฉลองรายได้ 500 ล้าน และ 1,000 ล้านบาท ข่าวนี้ยิ่งกระตุ้นให้คนที่ยังไม่ได้ดู ตัดสินใจไปดู และคนที่ดูแล้วก็กลับไปดูซ้ำ.... นอกจากนี้่ช่วง DVD ออกก็ยังอัดโปรโมชั่น ชิงโชค รถ ทองคำ ฯลฯ อีกมากมายยยย

พี่มาก เป็นเครื่องยืนยันว่า "หนังไทย" ถ้าอยาก "ประสบความสำเร็จ" ไม่ใช่แค่ความบังเอิญครับ
แต่ต้อง "ใส่ใจ" ทุกองค์ประกอบให้ออกมาดีจริงๆ  ทั้งในจอ และนอกจอ  ไม่ว่าจะเป็น
ตัวบทหนัง ตัวSetUp ตัวแสดง เพลงประกอบ เทคนิค การตัดต่อ ลำดับภาพ, เพลงประกอบ นักร้องที่มาร้อง, การโปรโมท ทุกช่องทาง, การทำโปรโมชั่นกับทุกช่องทางที่ตนทำได้, การตลาดเต็มรูปแบบที่รองรับหนัง, การฉายช่วงเวลาที่เหมาะสม และที่สำคัญ "ความสนุกของหนัง" ที่ดูซ้ำได้หลายๆ รอบ และดูได้ทุกเพศทุกวัย....​และพิสูจน์ได้ว่า...​"หากหนังไทยทำดี คนไทยก็พร้อมไปสนับสนุน"

"คู่กรรม"
คู่กรรมเป็นหนึ่งในหนังไทยทีี่ผมขอบในปีนี้นะครับ... แม้ไม่ใช่ "คู่กรรม" ในแบบที่เราคาดหวัง แต่เป็น​"คู่กรรม" ในแบบที่ผมเคยรู้สึก
ตอนที่ผมอ่านหนังสือครับ ผมรู้สึกชื่นชอบในการนำเสนอคู่กรรมเวอร์ชั่นคุณเรียว มากกกกก 

แม้คู่กรรมจะมี Model ที่เอื้อต่อการประสบความสำเร็จ ทั้งนิยายที่ดี การได้ ณเดชมาเล่น(ซึ่งเป็นโกโบริที่เหมาะที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา)
และมีเพลงประกอบที่ไพเราะ การเข้าฉายในช่วงสงกรานต์ แต่ก็ถือว่ายังกุมองค์ประกอบแห่งความสำเร็จได้ไม่ดีพอ เพราะมี "แผล"ใหญ่ๆ หลายแห่ง ได้แก่ "นางเอก" ที่เป็นใครก็ไม่รู้ ที่พูดไทยไม่ชัด และการแสดงก็แข็งเอามากๆๆๆ  / รูปแบบของหนัง ที่นำเสนอออกมามีเลิฟซีนที่ยืดยาวไปหน่อย และอาจได้เรทที่เด็กๆ ดูไม่ได้.... / หนังดูไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ครับ  ยังดูไม่ค่อยสมูทต่อกันทั้งเรื่องครับ  มันก็เลยดูขาดๆ เกินๆ


"ยัง บาว"
โปรเจคที่น่าจับตามองมากที่สุด ตั้งแต่เปิดตัว คือ "ยังบาว เดอะมูฟวี่" ที่ตอนแรกวางตัว "ตูน บอดีแสลม" ไว้ (ซึ่งเหมาะมาก)
แต่แล้วก็มีการปรับบทเป็น "ดาราหน้าใหม่" (ใครหว่า) และยังมีปัญหาในด้านการ Production ตลอดเวลา ทำให้หนังจากที่จะเป็นฟอร์ใหญ่
กลับกลายเป็นฟอร์มเล็กจิ๋วหลิว...​และไม่น่าสนใจ.... ผลคือ...การยืนโรงเพียงไม่นาน และทำรายได้แค่ 4 ล้านบาท(เท่านั้น) แค่เผลอแป๊ปเดียว ออก DVD มาแล้ว...คนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "เข้าโรงฉายแล้ว"

"ค่ายใหม่มาแรง... The Last Summer"
หลังจากหนัง "The Last Summer" เข้าฉายในภาพยนตร์หนังเมืองปูซาน ก็ได้รับการติดต่อให้เข้าฉายในอีกหลายประเทศ
นับว่าเป็นหนังสยองขวัญ ที่ออกต่อดีของค่ายใหม่ Talent 1 ในเวทีต่างประเทศครับ ( แม้ว่าในประเทศจะไม่ค่อยไปประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ก็ตามที)


"เฟล ออฟ เดอะเยียร์ ของ สหมงคลฟิล์ม"
ปีนี้ สหมงคลฟิล์มดู "Drop" ลงไปเลย เพราะยังมาด้วย โมเดลหนังเก่าๆ ที่คนไทยไม่ตื่นเต้นแล้ว เช่น ต้มยำกุ้ง2 ที่ไม่เป็นกระแสเลยแม้แต่น้อย  และยังขาดไฮไลท์ อย่าง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค5" ที่โดนโรคเลื่อนมา 17 ล้านปีแสง...เรียกว่าคนไทยยังไม่ได้เห็นฉาก "ยุทธหัตถี" สักทีจนบัดนี้..... ยังไงก็เอาใจช่วยค่ายนี้ให้กลับมาสร้างปรากฏการณ์หนังไทยในรูปแบบใหม่ๆ อีกครั้งนะครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่าน "ที่สุด...วงการบันเทิงไทย 2556" หมวดต่างๆ ด้านล่าง
> ที่สุด หนังไทย แห่งปี คลิกตรงนี้เบย!!
> ที่สุด ละคร แห่งปี คลิกตรงนี้เบย!!
> ที่สุด ซีรีย์ แห่งปี คลิกตรงนี้เบย !!!
> ที่สุด เพลง แห่งปี คลิกตรงนี้เบย!!
> ที่สุด ละครเวที แห่งปี คลิกตรงนี้เบย!!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องย่อ “Frozen” (Disney's) โฟรเซ่น - ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ” : จากมุมมองของผม หลังชม (review)

สไปร์ท ฮอร์โมน : ซ่าๆ ใสๆ (กินสไปร์ท ต้องใส่ถุง) : (Hormones วัยว้าวุ่น เดอะซีรีย์)

เต้ย ฮอร์โมน : ตำนานแห่งดอกกุหลาบที่ถูกสาป (Hormones วัยว้าวุ่น เดอะซีรีย์)