อย่างไร? ไกลกังวล มิวสิคัล ออนเดอะ บีช (รีวิว)


ครั้งแรกที่ได้ยิน Project "ไกลกังวล Musical on the beach" ก็แอบกรี๊ดอยู่ในใจ
และให้คะแนนความคิดสร้างสรรค์เต็มล้าน%  
"มิวสิคัล บนชายหาดสวนหลวงราชินี หัวหิน ดินแดนแสนโรแมนติค 
มีน้ำทะเลเป็นฉากหลัง ท้องฟ้า หมู่ดาว" … สุดยอดไหมล่ะครับ


แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ Musical เรื่องนี้ มีความ "ทำยาก" อยู่ระดับ 9.5 ริกเตอร์
เพราะปกติวิสัย Musical ก็ทำยากอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นใหม่ยิ่งยากขึ้นไปอีก
และในที่สุด Musical ที่ดูสนุก และถึงอารมณ์ ก็ยากขึ้นไปอีก เป็นลำดับๆ 

ถือว่า "ไกลกังวล" เป็น musical ที่ลองวิชา ลองของยากจริงๆ 
และความคิดเห็นต่อจากนี้ เป็นทัศนะจากผู้ชมคนหนึ่ง ที่มอง "ไกลกังวล" อย่างพยายามเชียร์
แต่นอกเหนือจากทุกสิ่ง "ดี" ก็จะชม "ไม่เหมาะสม" ก็จะติ.... แต่เป็นการติ เพื่อ "ก่อ" ครับ


เริ่มเลย...ดีกว่า เพราะเรื่องนี้มีแต่ความ "กังวล"

กังวลกับเนื้อเรื่อง
*ชมก่อน
 ต้องชื่นชมความพยายามของผู้เขียนบท ที่พยายามขมวดสิ่งที่ไม่เข้ากัน หลายต่อหลายอย่าง
แต่จำเป็นต้องเอามาขมวดรวมกัน เพื่อให้ Musical เรื่องนี้ตอบ idea ที่ตั้งไว้
สิ่งที่ไม่เข้ากันที่ว่านั้น เริ่มตั้งแต่ ชื่อละครที่ชื่อ "ไกลกังวล" ชื่อเป็นชื่อวังแต่พยายามปั้นให้เป็นโครงเรื่อง
"ฝนหลวง" ชื่อพระเอกที่น่าจะต้องชื่อนี่ เพราะมีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ที่หัวหิน
แล้วอะไรอีก "ปริศนา" "ประวัติวังไกลกังวล" "พระราชประวัติ และประวัติศาสตร์ของ ในหลวง ร.7 และรัชกาลปัจจุบัน"
( เห็นไหมล่ะครับว่า มันไม่เข้ากันสักอย่าง)

*ติแล้วนะ
  ความพยายามผูกทุกอย่าง นั้นไม่เป็นผลครับ เนื้อเรื่องเละเทะ หลวม จนดูไม่รู้เรื่องเลย
  เหตุผลสนับสนุน หรือความลึกของตัวละครนั้นหายไปโดยสิ้นเชิง...  คือบทละครทำได้ไม่ถึงเป้าหมายของงานที่จัดขึ้นครับ
  - ประเด็นของละครมีมากเกินไป จนดูเหมือนละครไม่มี "กระดูกสันหลัง" จึงไม่แปลว่าคนดูจับอะไรไม่ได้ และ ละครมันก็เลยไม่ Focus อะไรสักอย่าง
 ตอนนี้ประเด็นที่จับได้คือ 1) หัวหินไม่ใช่ที่มาชิลผิวเผินอย่างที่คนเมืองเข้าใจ 2)เพราะที่นี่มีประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความรักกษัตริย์ถึงสองพระองค์ 3)การเคารพบูชาจงรักสถาบัน
    4)เชื่อมั่นในความรักและความดีอย่าหลงวัตถุเป็นที่ตั้ง 5)ความสามัคคีกันของคนไทย …….. หุหุ……เละไหมครับ ทั้งหมดผูกกันโดยขลุกขลักทั้งเรื่องครับ.... ทำให้ละครมันฝืดๆ 
  เมื่อธีมละครหลักไม่มีอะไรเด่นให้ยึด บทละคร ตัวละคร เหตุการณ์ เพลง มันก็เลยไม่รู้จะ Support หรือขยี้อะไร...
  เสียดายมาก แม้จะหยิบประเด็นเรื่องความรักของกษัตริย์ ในมุมโรแมนติค และอิงประวัติศาสตร์
แต่นำเสนอได้แข็งทื่อ ไร้อารมณ์ และไม่เข้าถึงอารมณ์ ทั้งที่- Content `ส่วนนี้ใหม่และลึกกว่า แต่กลับทำได้ไม่ดีเท่า "สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล หรือ กระทั้ง ทวิภพ เดอะมิวสิคัล"

สิ่งหนึ่งที่ผมว่าไม่เหมาะเลย และยกเป็นความพลาด คือการจบองก์1 และการเริ่มองก์2 คือ องก์1 ตอนท้ายกล่่างรัชการที่7 และพระองค์เจ้ารำไพฯ เล่ามาตั้งนานสองนาน แล้วพอเล่าจบ ไฟก็ดับ แล้วก็จบองก์1 แบบ ดื้อๆ .... แต่พอขึ้นองก์2 เปิดด้วยเพลงของพระนาง ก็ร้องว่า เข้าในรักอันยิ่งใหญ่ การเสียสละแล้ว...ซึ่งเพลงนี้พอขึ้นมาองก์2 ก็งงๆ ว่า ร้องทำไม เกี่ยวไรกับเรื่องหลอ. จนจบเพลงถึงอ๋อว่า..มันคืิอเพลงสรุปตอนท้ายของเรื่ององก์1 นี่นา....แล้วทำไมไม่เอาไปเป็นบทสรุปองก์1 ล่ะ

แผลใหญ่มาก มีอยู่1จุดคือ "ความไม่สมจริง ด้านเวลา"
ผมค่อนข้างจะให้อภัยจุดนี้ไม่ได้เลย เพราะมันผิดระดับโครงเรื่อง
นั่นคือ เรืื่องเริ่มจากกลุ่มคนเมืองเดินทางมาพักผ่อนที่หัวหิน …. มาทะเลแปลว่าหน้าร้อนใช่ไหม? ใช่! / ในเรื่องตัวละครใ่ส่หมวกใส่แว่นกันแดด บางฉากมีการใส่ชุดอาบแดด
ยืนยันใช่ไหมว่าหน้าร้อน? ใช่!  / มีการผูกว่า ขณะนี้ทางกรุงเทพมีเรื่องจลาจลไม่สงบ แสดงว่าสื่อถึงช่วงเมษาเมื่อหลายปีก่อนใช่ไหม? ใช่! /  ยืนยัน 100% ว่าเรื่องเกิดช่วงเมษายน หน้าร้อน /
แต่ท้ายเรื่อง.... น้ำชาพูดว่า "เวลานี้ในอดีต 24 พฤศจิกายน".......???????????????????????
ควรให้อภัยไหม????????????????  จบละครับละครเรื่องนี้  
พอละ...จบนะ Part นี้

นักแสดง กังวลไหม?
ความสามารถของนักแสดงหนุ่มสาว อย่างซี น้ำชา และธีร์ นั้นก็แสดงออกมาได้ล้นเหลือ
รุ่นใหญ่อย่าง คุณญาณี คุณปิง ก็ทำได้อย่างสุดความสามารถ
แต่เสียดาย บทไม่ส่งให้ทุกคนเจิดจ้า
บทของซี ก็เป็นแค่ตัวประกอบ ทั้งที่เป็นพระเอก
บทของน้ำชาแม้จะออกเกือบทุกฉาก แต่ไม่มีความลึก
บทของคุณญาณี ก็เหมือนลอกหนังสือสารคดีมาให้อ่าน จนทำให้คุณญาณีลืมบทเป็นพักๆ
บทคุณธีร์ ก็เปลือก จนกลวงโบ๋
ที่เสียดายคือคุณพิจิกา ที่ความสามารถล้นเหลือ แต่ใช้เธอในบท "ขยะ" มาก ถามว่าเธอมีผลกับเรื่องไหม...ไม่เลย...


ฉาก กังวลรึเป่า?
ฉากเรื่องนี้เป็นฉากตาย หลักๆ มีอยู่ 2 จุดสนใจคือ
"ตัวบ้านเกลียวคลื่น" (ที่สมมุติว่าเป็นวังเก่า) และ "บ้านคุณตา" บ้านไทยน่าอยู่ใกล้ๆ บ้านเกลียวคลื่น
ต้องชมว่า ความสวยงามของบ้านเกลี่ยวคลื่นนั้นทำออกมาได้ดีมาก... สวยงาม สมจริง ประณีต โอ่โถง
บ้านคุณตา ทำได้น่ารัก อบอุ่น น่าอยู่

ต้องติว่า สิ่งที่ไม่เหมาะสมมีอยู่หลายจุด แม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็พลาด เพราะหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้เลย เช่น
- ต้นไม้ปลอม ข้างบ้านคุณตา ที่หมุนได้ และอีกด้านหนึ่งเป็นจอฉายภาพ (ทำไมต้องฉายภาพบนต้นไม้ ต้นไม้บอกอะไร ต้นไม่จะเป็นของจริงหรือของเหนือจริง บลาๆๆ ฯลฯ)
- สถานีรถไฟหัวหิน ที่อยู่ๆ ก็โผล่มาตั้งระหว่าง บ้านเกลียวคลื่นและบ้านคุณตา เข้าใจว่าเป็นฉากสมมุติ..แต่ ถ้าธีมฉากจะสมจริงก็สมจริงไปเลย ไม่ควร จริงบ้าง ไม่สมจริงบ้างปนกัน
(ตรงที่เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ ร.7 ด้านบนขวา คือต้นไม้ที่หมุนมาเป็นจอรับภาพ
ตลกดีมะ)

เสื้อผ้า
ชื่นชมว่า "ทุ่มทุน" และ "ทุ่มเท" เพราะนักแสดงเรื่องนี้เยอะ........​เปลี่ยนเสื้อผ้ากันบ่อยแทบทุกฉาก และยังคงให้ทุกตัวแต่งตัวสวยงาม สมคาแรกเตอร์ที่แต่ละตัวได้รับ
ไม่มีจุดติครับ ถือว่าใครชอบอู่ฟู่คงชอบ


Props
เวอร์ ฟู่ฟ่ามาก เช่นเอารถโบราณเปิดประทุนสีแดงคันงามมาแล่นบนเวที การเอารถสามล้อปั่นมาร่วมฉาก การสร้างเรือปลอม  โต๊ะตู้ ต่ังเตียง ใช้ของจริงหมด 
และจำนวน Props ก็มีจำนวนมาก และเปลี่ยนบ่อย....ฝ่าย Props ทำงานได้ดีมาก
แต่จำไว้นิดนึงก็ดีนะครับว่า Props ดีไม่ได้ทำให้ละครดี เหมือนสมัยเรียนอะครับ ที่ตอน Present งานมักมีเพื่อนบางกลุ่มเน้นอุปกรณ์ตื่นตาแต่ไม่มี Content
ที่แน่นและคม …ไกลกังวลเป็นแบบนี้
รถคันงาม แต่เก็บรถคันนี้โดยขึงผ้าเล็กๆ บังตาหลังฉาก?????


กังวล กับ เสียงกังวาล
ดนตรีเพราะ...  การเรียบเรียงเสียงประสานทำได้ดีมาก..... แต่เพลงไม่เพราะ
ข้อเสียคือเพลงแต่ละเพลงยาวไป...ความยาวทำให้เพลงในละครเรื่องนี้ไม่สื่อความหมายที่คม ไม่หนักแน่น
เพลงไม่ติดหูเลย... แม้จะใช้บางเพลงเป็นเป็นตัวรีพีทในหลายฉากเพื่อเน้นย้ำ อารมณ์และความหมาย แต่ความไม่ติดหูของเมโลดี้ ทำให้เทคนิคนี้ใช้ไม่ได้ผลกับโชว์
ข้อเสียจุดใหญ่มากที่ไม่น่าให้อภัย และทำลายโชว์ ผมว่าคือการ นำเอาวงดนตรีมาวางไว้หน้าเวที เพราะนอกจากจะทำให้คนดูวอกแวก และบดบังผู้ชมบางส่วนแล้ว
อีกส่วนหนึ่งที่คาดไม่ถึึงคือ เมื่อวงอยู่ด้านหน้า ทำให้เสียงเพลงดังมากเกินไป และไม่สามารถควบคุมความดังเบาได้ บางทีเสียงเพลงก็ดังทะลึ่งกลบเสียงนักร้อง  บางช่วงที่ควรจะมีเพลงเลี้ยงคลอๆ แต่ด้วยความที่คุมเสียงให้เบาไม่ได้เสียงเลยดังรบกวนโหวกเหวกตลอดโชว์
และที่สำคัญมากๆ....โชว์นี้นักแสดง Lead ไม่ใช่คอนดักเตอร์ Lead การแสดงของนักแสดงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกำกับจังหวะของคอนดักเตอร์  แต่นักแสดงกำกับจังหวะเอาเอง แล้วดนตรีค่อย Support ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จำเป็นต้องเอาวงดนตรีไว้ด้านหน้า....ยกเว้นคือแค่ความอยากโชว์เก๋....ซึ่งก็จริง เพราะเหตุคอนดักเตอร์ใส่สูทเต็มยศเชียว
รอบที่ดูเหมือนมีฝนหยดๆ บ้าง เลยเอาเต้นท์์มาคลอบ เก๋ป่ะล่ะ??


แสง กังวลด้วย
แสงนั้นผมวิเคราะห์จากการดูโชว์แล้วพบว่า น่าจะอออกแบบให้กึ่งๆ การแสดงแสงสีเสียง..ดังนั้นแสงเพื่อ Supportเนื้อเรื่องและอารมณ์ตัวละครคงต้องมี
และแสงที่มาเพื่อความหวือหวาตื่นตา มาแบบไม่มีเหตุผล ก็มีบ้าง อันนี้ให้อภัย
จุดเด่นที่ผมพบ แม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็สะท้อนถึงความช่างคิด... คือการฉายไฟไปยังด้านหลังเวที แสงกระทบคลื่น ทำให้เรารู้สึกว่า เขาดึงเอาน้ำทะเล มาเป็นหนึ่งในฉากด้วย

แต่จุดที่แย่มากๆ คือ ความสมจริงของกลางวัน กลางคืน
เพราะเนื้อเรื่องมีทั้งสลับกลางวันกลางคืน แต่การออกแบบแสงให้คนเข้ากับถึงช่วงเวลาของวันนั้นทำได้บกพร่อง คือแยกไม่ได้ด้วยตาเปล่าเลยว่า อันไหนกลางวัน อันไหนกลางคืน  ต้องดูเรื่องประกอบถึงจะเข้าใจ
(สถานการณ์กลางวัน แต่ใช้แสงฟ้า?????????????)


ลีลาไม่ค่อยน่ากังวล
part ของ Dance ทำได้สวยงามครับ ไม่ได้มีท่ายากอะไร  แต่สามารถใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า การจัดวางโชว์บนเวทีดูมีศิลปะและสวยงาม
แม้บางช่วงจะดูยุ่งๆ กันบ้าง หรือมีหันก้นให้คนดูบ้าง ก็ถือว่าเล็กๆ น้อยๆ

ท้ายที่สุด บรรยากาศป่วยสุด
ละครเวที หรือ Musical นั้นเป็นการเสพศิลปะ ที่ผู้ชมต้องใช้สมาธิสูงในการรับชม
แต่บรรยากาศของ "ไกลกังวล" นั้นไม่ค่อยเอื้อ คือร้อน.....และมียุง  อีกทั้งการคุมคนในการเข้าออกบริเวณส่วนแสดง.....
ซึ่งทั้งหมดทำลายสมาธิการรับชมของผู้ชมทั้งสิ้น  แม้เป็นปัจัยภายนอก (เรื่องร้อน) หรือพยายามแจกยากันยุงให้ทาแล้ว แต่ก็ทำให้คนดูไม่อยู่ในโหมด 100%
(ก่อนมืด และก่อนการแสดงจะเริ่ม)


ท้ายที่สุด
โชว์นี้ไม่ใช่โชว์ที่แย่
แต่โชว์นี้ยากตั้งแต่ไอเดียแล้ว.........การทำให้สำเร็จขึ้นมาเป็นโชว์ ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
มีปัญหา ทั้งภายใน ภายนอกบ้าง แต่ทุกอย่างก็ออกมาเป็นโชว์ที่ให้ความบันเทิงได้ดี

แต่ข้อเสียของโชว์คือ ทำได้ไม่ถึงอารมณ์ ไม่ถึงแก่น ไม่ถึงที่สุด ก็เท่านั้นเอง
(อาจจะไม่ใช่ทางที่ถนัดของผู้ผลิต แม้ว่าจะได้ทาง ม.กรุงเทพมาช่วยแล้วก็ตาม)
สู้ต่อไปนะครับ... จะรอดูผลงานและก้าวต่อไปครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องย่อ “Frozen” (Disney's) โฟรเซ่น - ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ” : จากมุมมองของผม หลังชม (review)

สไปร์ท ฮอร์โมน : ซ่าๆ ใสๆ (กินสไปร์ท ต้องใส่ถุง) : (Hormones วัยว้าวุ่น เดอะซีรีย์)

เต้ย ฮอร์โมน : ตำนานแห่งดอกกุหลาบที่ถูกสาป (Hormones วัยว้าวุ่น เดอะซีรีย์)