คุณชายรณพีร์ : แท้ที่จริง "แย่" หรือ "เยี่ยม"

ตั้งแต่ซีรีย์ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” เริ่มออกอากาศ นับตั้งแต่ “คุณชายธราธร” เราก็เห็น ตัวละคร “คุณชายรณพีร์” เป็นหนุ่มน้อยหน้าใสทหารอากาศแสนเท่ห์ บริหารเสน่ห์ไปเรื่อย ชอบเที่ยว ชอบหลี  ขี้เล่น ขี้อ้อน จอมทะเล้น และแสนจะบู๊สมเป็นลูกทัพฟ้า.... .ซึ่งคาแรคเตอร์นี้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และเข้มข้นขื้นเรื่อยๆ ตามลำดับ....
แต่ไหน...กลับหงอ!!! ..... ในตอนของตัวเอง...

อธิบายภาพ : ชายพีร์ในภาคก่อนๆ น้องเล็กที่ร่าเริง และบ้าบิ่น


คนดูคงคิดแบบนี้ เพราะคาดหวังว่า ตอน “คุณชายรณพีร์” ชายเล็กจะต้องโชว์ลีลาแพรวพราว แน่นอน แต่ละครกลับไปไม่ได้นำเสนอมุมนั้น  คนดูก็เลยอึ้งเลยมีอคติตั้งแต่ตอนแรกที่ออกฉาย...และรูปแบบวิธีนำเสนอที่เนิบช้า ค่อยเป็นค่อยไป ที่หลายคนบ่นง่วง...จึงทำให้คนพูดกับไปต่างๆ ว่า “คุณชายรณพีร์แสนน่าเบื่อ และไม่สนุกเลย”

“แล้วมันจริงใช่ไหม
!!!!
โดยส่วนตัว ผมว่าไม่
!!!!

ผมว่า “คุณชายรณพีร์” เจ๋งมากๆ ตั้งแต่ตอนแรก และเจ๋งขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจบ...
ขอปรบมือให้ทีมผู้ผลิตครับ













มันเจ๋งยังไงน่ะหลอ...เดี๋ยวเล่าให้ฟัง
มันอาจจะเป็นไม่ตรงใจกับใครบ้างนะ...แต่อยากให้ลองอ่านดูครับ

ก่อนอื่นอยากจะให้ทุกท่านสวมวิญญาณของชายพีร์
น้องคนสุดท้อง ที่เป็นที่รักของพี่ชายทั้ง
4 ที่ตั้งแต่เด็ก เขาก็ได้รับความรัก ความเอ็นดูจากพี่ๆ โดยตลอด..และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคุณย่าทั้ง   2 ที่ต่างก็รักและพร้อมที่จะตามใจอยู่เสมอ....
แต่เหตุการณ์ได้เปลี่ยนไป พี่ๆ ทั้ง
4 ต่างก็มีคนรัก มีชีวิต มีครอบครัวของตัวเอง (เหมารวมพี่ชายใหญ่ไปด้วยนะ เพราะอีกเดี๋ยวก็แต่ง) ... ทำให้เสี้ยวหนึ่งของคุณชายทั้ง 4   ต่างก็ต้องใช้เวลากับคนรักของตน ความรักที่เคยเทให้กับ “น้องคนเล็ก” ก็มีพร่องไปบ้าง 

นอกจากนี้ สัญญาระหว่างสองตระกูล ก็ไม่ได้ถูกทำให้ลุล่วง...ตกเป็นภาระของ “ชายเล็ก”  จากที่เคยคิดว่า “ไม่ใช่ธุระ และแสนไกลตัว”  กลับเป็นภาระหนักอึ้งที่จำต้องแบกไว้คนเดียว ไม่มีใครจะแบ่งเบาไปได้   

มิหนำซ้ำ คนที่เคยโอ๋ เคยเข้าข้าง อย่างย่าเอียด และย่าอ่อน...กลับเป็นฝ่ายขู่เข็น เร่งรัดเรื่องสัญญา และไม่พร้อมจะเข้าข้างคนอีก

ไม่แปลก ที่ละครเรื่องนี้จะเหงาๆ เศร้าๆ ซึมๆ เนืองๆ ก็เพราะความรู้สึกเหล่านี้ คือสิ่งที่ “ชายพีร์” รู้สึกและเป็นอยู่...เขาแค่ไม่พูดกับใครเท่านั้นเอง


ถามว่าทำไมผมเข้าใจชายเล็ก....ในฐานะ “ลูกคนเล็ก” ผมว่าผมมองไม่ผิด

และนี่คือบทสรุปใหญ่ๆ ที่หลายคนไม่ชอบเรื่อง “คุณชายรณพีร์” ประมาณ 3 ข้อใหญ่


ชายพีร์ เปลี่ยนไป
ไม่ปฏิเสธเลยครับ ว่าชายพีร์เปลี่ยนไป.... ถ้าเล่าโครงสร้างเรื่อง จะแบ่งได้เป็น  5 ช่วงคือ
1. ชายพีร์ ยังไม่เจอ “เพียงขวัญ”  (10% ของเรื่อง)
2. ชายพีร์ได้พบ เพียงขวัญ และปิดบัง ฐานะตัวเอง (15% ของเรื่อง)
3. ชายพีร์คคบเพียงชวัญ และพยายาจะบอกความจริง แต่ไม่กล้า จนวันเกิดย่าเอียด (50% ของเรื่อง)
4. ชายพีร์ พยายามง้อเพียงขวัญ จนกระทั่งตัวเองไปรบ บาดเจ็บกลับมา (15% ของเรื่อง)
5. ชายพีร์ รักษาตัวที่วัง และแต่งงาน (10% ของเรื่อง)


ชายพีร์หนุ่มน้อยเจ้าสเน่ห์ เปลี่ยนไป ตั้งแต่ช่วงที่
2-4   ครับ เปลี่ยนไปจริง และกินเวลา 80% ของเรื่องเลย สาเหตุที่ชายพีร์เปลี่ยนไป เขาก็บอกกับทุกคนเองว่า “ตลอดระยะเวลาที่คบกับเพียงขวัญ และต้องโกหก...เป็นครั้งแรกที่เขาไม่มีความมั่นใจในตัวเอง”.... นี่ไง...สาเหตุแห่งการเปลี่ยนไปในช่วง 2-3   ส่วนช่วงที่ 4   ก็เป็นช่วงเครียด.... ดังนั้น ตามเรื่อง ตอนนี้ชายพีร์ตีขรึมนั้นถูกแล้ว... และใครที่ชมตอนจบในวันอาทิตย์ที่  7 กรกฏาคม  ก็จบพบว่า ทันทีที่ชายพีร์กลับมารักษาตัวที่วัง และมีเพียงขวัญเป็นพยาบาลส่วนตัว ความกระล่อน เจ้าเล่ห์ หูตาแพรวพราวก็กลับมา.... ( จริงๆ ก็กลับมาตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้ว ที่เจอเพียงขวัญ และบอกว่าคิดถึง อยากจะจูบน่ะ...นี่ขนาดต่อหน้าเจ้าสร้อยฟ้านะ...!!!)


จะเนิบไปไหน..!
หลายคนบ่นว่ารูปแบบการนำเสนอมันช่าง “เรื่อยๆ มาเรียงๆ” ....เนิบนาบ เชื่องช้า  ประกอบกับการใช้เพลงอาทิตย์อับแสง ที่เรียบเรียงใหม่ ในแบบ “อ้อยอิ่ง” ที่ขยันเปิดคลอตลอดเรื่อง....มิหน้ำซ้ำ ยังหมั่นขึ้นสกอร์เพลงอาทิตย์อับแสง ในหลากหลายเวอร์ชั่น เพื่อใช้ในอารมณ์ต่างๆ ในฉาก โดยเฉพาะสกอร์เปียโน “ตื่อ ดื๋อ ดือ...ตื่อ ดื๋อ ดือ....” ที่หมั่นขึ้นมาทุก 15 วิ...ทำให้หลายคนง่วงเหงาหาวนอนได้เมื่อยามดู (ไม่นับการดีไซท์ซีนที่ไม่ค่อยหวือหวา... 
(ที่พูดกันหนาหูคือ ฉากที่ชายพีร์ต่อยกับ "ยอดยศ" กลางสนาม แล้วภาพดึงเป็น Slow พร้อมกับเพลงอาทิตย์อับแสง บรรเลง)


ต้องขอบอกว่า วิธีการนำเสนอแบบนี้ ผมว่า “ขยี้” ดีนะครับ.... คือละครเรื่องนี้ ไม่มีฉากไหนเลย ที่จะเล่าผ่านๆ เรียกว่าขยี้กันทุกฉาก ขยี้กันทุกเม็ด...ซึ่งตอนดูไล่ๆ มาหลายอาทิตย์ มันอาจจะน่าเบื่อหน่อยในความรู้สึกของบางท่าน...แต่ที่ขยี้มาทั้งหมดมาทั้งหมดนั้น มันกลับได้ผล ตอบจบครับ...เพราะคนเผลออินไปกับทุกตัวละคร เข้าใจทุกตัวละคร และทำให้ตอนจบ มันพีคมากๆๆๆๆๆ ( แม้มันจะพีคแค่วันอาทิตย์ก็เถอะ... ก็เพราะว่าทุกอย่างมันมากองอยู่วันอาทิตย์น่ะสิ)

และจะบอกให้ ฉากเนิบๆ เนี๊ยบๆ แบบนี้...ถ่ายยากนะเออ ต้องดีไซท์กันมาดีแล้วนะเธอ


บทกระจายไปหน่อย
ทุกตัวละครในเรื่องนี้ ล้วนมีปม และปมก็มีผลกระทบกับเรื่อง และละครก็ไม่ละเลยตัวละครไหนเลย กลับเล่าละเอียดหมดทุกตัว ( เช่น ปมระหว่าง พ่อ- แม่ของ เพียงขวัญ, ปมของน้า และยายของ เพียงขวัญ, นี่ยังไม่นับตัวละครอื่นๆ ที่โผล่มาใหม่อีก) แถมยังมีเรื่องสถานการณ์ของเวียงภูคำอีก.......ทำให้เวลาเกือบ 40% ของเรื่อง ถูกใช้ไปเล่าเรื่องคนอื่นด้วย...ซึ่งนั่นก็คือความจริง
ซึ่งก็โอเค....แต่คิดๆ ดู ก็ตัดอะไรไม่ได้สักอย่างเลยนะ ไม่งั้นมันจะไม่พีคเอา
 


นอกจาก 3   ข้อใหญ่ ที่คนอาจจะไม่ชอบรณพีร์ ผมยังเห็นจุดเด่นอีกหลายด้านที่น่าชื่นชม

Art direction ทำได้ดีมาก
 คือบอกได้ตรงๆ ว่า ละครเรื่องคุณชายรณพีร์ โดดเด่นเรื่องการใช้ศาสตร์และศิลป์ ในการนำเสนอมากทั้งเรื่อง
- ภาพ : ที่ได้คุณภาพของภาพแบบภาพยนตร์ ได้อารมณ์และออกมางดงาม  
-การลำดับเรื่อง บท และการตัดต่อ : ที่ถูก Design มาแล้ว เช่น ฉากเดียวกัน หากถูกแบ่งด้วยเบรกโฆษณา หรือข้ามวัน ก็จะมีการตัดต่อ และนำเสนอต่างกันออกไป ตามหน้าที่ในแต่ละตอนนั้นๆ บางตอนถึงขึ้น ถ่าย 2 ครั้งโดยตั้งใจให้ต่างกันไปเลย...เรียกว่าไม่ธรรมดานะ ลองสังเกตดู
- เสื้อผ้า :   ทำได้สวยงาม และดูเก่าจริง... คือดู Pattern ดูเนื้อผ้า ดูสี ดูองค์รวม มันเก่า มันคือยุคนั้นจริงๆ แต่ไม่ใช่เก่า แล้วตั้งใจให้เชยเหมือนละครลวกๆ บางเรื่อง.... แต่เป็นการตั้งใจให้เก่า ให้รู้ว่าเชย...แต่สวยงามเข้าถึงความสง่างามของคนในยุคคนนั้น 

- ความสมจริงขององค์ประกอบ : ไม่ปฏิเสธ ว่าเนียน ตั้งใจออก ตั้งใจเตรียมงาน ตั้งใจถ่ายทอด...เราได้เห็นความสมจริงหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น การถ่ายทอดรายการของช่อง 4 บางขุนพรม, รูปแบบงานพิธีสมัยก่อน รวมทั้งวิถีชีวิต เช่นการจุดตะเกียงเจ้าพายุ แบบจุดจริงๆ เห็นกันทุกขึ้นตอน
- การออกแบบบางซีนที่ทรงพลังเหลือเกิน : คือแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า ใช้อะไรสร้างสรรค์ในหลายๆ ฉาก ช่างทรงพลัง แปลกใหม่ ได้อารมณ์ความรู้สึกระดับ Full HD ที่เด่นๆ ก็เช่น... ฉากวันอาทิตย์ที่ 7 เดชคำแหงกำลังจะยิงรณพีร์ แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้น ปรากฏว่านัดเลงโดยยิงที่ทะลุไหล่ขวา... ภาพเริ่ม แล้วเพลง “ฉุยฉาย” ดังขึ้น  พร้อมกับภาพที่ “นภา” แม่ของเพียงขวัญ วิ่งไปหา “อดุลย์” ที่นอนทรมานอยู่...... ถึงขึ้นช็อค ไปรู้อธิบายไง ไปดูเอง....


อธิบายภาพ : Print Ad ยาสีฟัน IPANA ของจริง (บน) กับ ในละคร (ล่าง) "เป๋ะเว่อร์" 



Blue Day
                เพลงอาทิตย์อับแสง หรือ Blue day เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 8   ของในหลวง โดยทรงพระราชนิพนธ์ทำนองไว้  ส่วนพระองค์เข้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ประพันธ์คำร้อง  (ระบุวันพระราชนิพนธ์ทำนองไว้วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์  พ.ศ.2492)
                เป็นความมหัศจรรย์ มากที่ได้ยินเพลง “อาทิตย์อับแสง” ในละครเรื่องนี้ ครั้งแรกที่ได้ยินในละคร ถึงขึ้นอึ้งไป...ไม่คิดว่าจะเอาเพลงนี้มาใช้ในละคร เพราะ “ถูกทุกข้อ” สำหรับละครเรื่องนี้ ทั้งเนื้อความที่เล่าถึงหัวจิตหัวใจชายพีร์ได้เป็นอย่างดี  รวมทั้งสามารถสร้างและถ่ายทอดบรรยากาศ ในห้วงสมัยในละครได้ยอดเยี่ยม
                และแน่นอน ทำให้ใครหลายคน รู้จักกับเพลงพระราชนิพนธ์ และหลงรักในทันทีที่ได้ฟัง


CG ที่ทำออกมาได้ดี
ในสเกล ละครเมืองไทย ที่ทำกันเอง ดูกันเองในประเทศ การทำละคร Production ใหญ่ๆ ก็ใช่ว่าจะมีให้เห็นบ่อย  รวมทั้งละครที่ถ่ายยากๆ หรือแทบจะถ่ายไม่ได้เลย อย่างคุณชายรณพีร์ ที่มีฉากขับเคลื่อนบิน อยู่เนือง ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่..... ถ้าเป็นหนังของฮอลิวูด ก็คงใช้ CG นั่งเขียนกันเป็นเดือนๆ พร้อมทุ่มงบมหาศาลให้สมจริงจนเราแยกไม่ออก... แต่กับ “คุณชายรณพีร์” ที่กล้าจะถ่ายทอด ถ่ายชายพีร์ขับเคลื่อนบิน  เครื่องบินแปรขบวน  การรบทางอากาศ...แค่คิดว่าจะทำก็เครียดแล้ว...แต่นี่ทำออกมาได้ดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สมจริง (ในระดับที่รับได้) และได้อารมณ์ เรียกว่าเอาอยู่  กองนี้มีความสามารถจริงๆ 


ความพีค ของเรื่องทั้ง
5 มาอยู่ที่นี่ และทำได้พีค
ต้องให้ความดีความชอบ ส่วนหนึ่งกับบทประพันธ์ ที่แต่งออกมาได้ดี  มีการเชื่อมโยงกันทั้ง 5   เรื่อง และทิ้งจุดพีค ไว้ระเบิดในตอน “คุณชายรณพีร์” นี้.... แต่ต้องชมเชยว่ากองนี้ก็ทำถึง...เราได้เห็นความพีคของทุกตัวละคร ที่แสนจะเด็ดขาด พร้อมจะลุกขึ้นและปรบมือให้เลย ค่อยๆ ไล่ไปทุกตัวละคร
- ชายพีร์ ที่เปลี่ยนบุคลิกตัวเอง จนไม่เป็นตัวของตัวเอง
- ย่าอ่อน ที่ติดคุก จนต้องร้องไห้อยู่ในคุก... รวมถึงฉากที่ “แข็งขึง” ออกไปไล่วิไลรัมภา ออกจากวัง
- คุณชายพุฒิภัทร ที่แอบเหน็บ มารตี ได้แสบ ยิ่งกว่าตอนที่เธอโดนน้ำกรด จรดลงที่หน้าเสียอีก
-  วิไลรัมภา ที่ค่อยๆ ไต่ระดับความร้าย ในเบอร์ต่างๆ กระทั่งถึงการกรี๊ด ต่อหน้าย่าเอียด และเสียสติในที่สุด
- หม่อมราชวังเทวพันธ์ที่ถึงขั้นอึ้งกิมกี่ หมดศักดิ์ศรีไม่ตัวเองอย่างที่สุด
                                                                     อธิบายภาพ : นางร้ายนะ


ข้อเสียอย่างเดียว ที่ผมเห็นว่ามันคือข้อเสีย
และเป็นจุดที่แตกต่างจากทุกเรื่องซีรีย์
 “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” นั่นคือ
“ขาดความจิ้น”
คือที่เรื่องที่ผ่านๆ มาเรตติ้งมันไต่ระดับเรื่อยๆ คือมัน “สร้างความจิ้น” ให้กับคนดู ให้ได้ลุ้น ให้ได้จิกหมอนกัน
เริ่มตั้งแต่ ความซับซ้อนของคู่ธราธรและมะปราง
/ คู่รักฐานันดร ของหญิงแต้ว กับชายรุจ /   คุณจิ้นฟินเวอร์ กับฉากในน้ำของชายภัทร และกรองแก้ว / คู่ฮา แต่โรแมนติกชมัด ของสร้อยฟ้า กับ รัชชานนท์..... แต่นี่อะไร คู่ชายพีร์ กับ เพียงขวัญ....เจอหน้ากัยปุ๊ป ฝ่ายหญิงก็ปฏิเสธลูกเดียวววววววว แม้จะรักกัน...ก็รักกันจริงจังไปเลย ถึงขึ้นมอบแหวน.... แม้จะมีดราม่า...แต่เนื้อเรื่องตรงไปตรงมาเกินไป ไม่เหลือเนื้อที่ไว้ให้พวกเรา “ได้จิ้น” และ “จิกหมอน” บ้างไรบ้าง

                                                 อธิบายภาพ : มีให้จิ้น แรกๆ แล้ว Drama หนักๆ เลย


อย่างไรก็ตาม
ก็เป็นธรรมชาติที่จะมีทั้งคนชอบ และไม่ชอบในละครแต่ละเรื่อง
แต่มุมมองของ “น้องคนเล็ก” ที่มีต่อ “ละครน้องคนเล็ก” อย่าง “คุณชายรณพีร์”
เรียกว่า เลิศเลอ
Perfect แล้วล่ะ ละครเรื่องนี้ ได้ทั้งสนุก ได้ทั้งดูงานสวยๆ ดีๆ
ที่สำคัญเข้าถึงหัวอก “ลูกคนสุดท้องได้อย่างดี” มว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก


และผมว่านี่แหละอนาคตละครไทย... ที่พัฒนาคนดูไปพร้อมๆ กับมอบความสนุก
ซึ่งการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เราอาจจะเขว อาจจะมึน อาจจะรับไม่ทันบ้าง ก็ขอให้ค่อยๆ เรียนรู้กันไป...
เรายังพอมีเวลา....

และอย่าปฏิเสธว่าละครแนว “คุณฉัตรชัย” ไม่สนุก เพราะเหนือเมฆ
2   ก็ทำให้คุณงอมแงมมาแล้ว และโกรธเคืองเมื่อถูกระงับฉาย....และต่อเนื่องด้วย “ชายพีร์” ที่อย่าปฏิเสธว่า แท้จริงแล้ว “คุณก็แอบดู”

แม้จะสลับช่องไปดู “ฮอร์โมน เดอะซีรีย์” บ้างก็เถอะ...
!!!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องย่อ “Frozen” (Disney's) โฟรเซ่น - ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ” : จากมุมมองของผม หลังชม (review)

สไปร์ท ฮอร์โมน : ซ่าๆ ใสๆ (กินสไปร์ท ต้องใส่ถุง) : (Hormones วัยว้าวุ่น เดอะซีรีย์)

เต้ย ฮอร์โมน : ตำนานแห่งดอกกุหลาบที่ถูกสาป (Hormones วัยว้าวุ่น เดอะซีรีย์)